|  | | |  | 
 |  |  
 | | | ผำ ไข่ผำ หรือไข่น้ำ พืชเศรฐกิจใหม่ของไทย ที่รัฐบาลประกาศให้เป็น "ซุปเปอร์ ฟู๊ด"
 | เพราะมีธาตุอาหารที่สำคัญแก่ร่างกายอยู่หลายชนิด ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดพิจิตร
 |  |  |  |  | ลักษณะทั่วไปของไข่น้ำ | (ภาพขยาย) |  | ไข่น้ำ (Wolffia arrhiza (L.) Wimm.) หรือชื่อเรียกตามภาษาท้องถิ่นว่า ผำ หรือ ไข่ผำ เป็น พรรณไม้น้ำประเภทลอยน้ำขนาดเล็ก พบในแหล่งหนองบึงหรือแหล่งน้ำขังรูปร่างเป็น เม็ดสีเขียวกลมหรือเกือบกลม มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-1.5 มิลลิ
 เมตรแต่ละต้นมีสีเขียว ไม่มีราก ไม่มีใบ ต้นประกอบด้วยเซลล์ชนิดพาเรงคิมาเป็นส่วนใหญ่
 มีช่องอากาศแทรกอยู่ระหว่างเซลล์ทำให้เห็นเป็นฟองน้ำและช่วยให้มีการลอยตัวอยู่ในน้ำได้เป็นพืชที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก
 |  | องค์ประกอบทางโภชนะของไข่น้ำพบว่า มีโปรตีน เบต้า - คาโรทีน และคลอโรฟิลล์จากการสังเคราะห์แสง ไข่น้ำมีปริมาณโปรตีนในระดับเดี่ยวกับเมล็ดถั่วชนิดต่าง ๆ เมล็ดธัญพืช มีเส้นใยสูง มีปริมาณกรดอะมิโนที่ จำเป็นไม่ต่างกับไข่ไก่ สาหร่ายเกลียวทอง และคลอเรลล่า นอกจากนี้คลอโรฟิลล์ในไข่น้ำสารต้านอนุมูล อิสระ (antioxidant) มากกว่าในสาหร่ายเกลียวทอง ซึ่งใช้รักษาอาการท้องผูก รักษาสภาวะซีดในคนที่เป็น โรคโลหิตจางได้ ประโยชน์ของไข่น้ำสามารนำมาใช้ปรุงอาหารพื้นบ้านทางภาคเหนือและภาคอีสาน เช่น แกงอ่อม แกงคั่ว ไข่ตุ๋น ไข่เจียว เป็นต้น รับประทานได้ |  | คุณค่าทางโภชนาการไข่ผำ (ส่วนที่กินได้ 100 กรัม) |  | น้ำ : 97.1 กรัม โปรตีน : 0.6 กรัม
 คาร์โบไฮเดรต : 1.5 กรัม
 เถ้า : 0.7 กรัม
 ฟอสฟอรัส : 25 มิลลิกรัม
 วิตามิน A : 535 มิลลิกรัม
 ไทอะมีน (วิตามิน B1) : 0.03 มิลลิกรัม
 ไรโบฟลาวิน (วิตามิน B2) : 0.09 มิลลิกรัม
 ไนอะซีน (วิตามิน B3) : 0.4 มิลลิกรัม
 
 
 |  พลังงาน : 9 กิโลแคลอรี  ไขมัน : 0.1 กรัม
  ใยอาหาร : 0.3 กรัม
  แคลเซียม : 59 มิลลิกรัม
  เหล็ก : 6.6 มิลลิกรัม
  วิตามินซี : 11 มิลลิกรัม
 (กองโภชนาการ กรมอนามัย, 2544.
 ตารางแสดง คุณค่าอาหารไทยใน
 ส่วนที่กินได้ 100 กรัม.)
 |  | ประโยชน์ทางด้านเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด |  | 1. ไข่ผำนำปล่อยในบ่อเลี้ยงปลาชนิดที่กินพืช อาทิ ปลานิล ปลาตะเพียน และปลาไน เป็นต้น เพื่อเป็นอาหารเสริมตามธรรมชาติให้แก่ปลา ทั้งนี้ จะปล่อยในปริมาณน้อย และต้องควบคุมปริมาณไม่ให้แพร่กระจายปกคลุมผิวน้ำเพราะผำจะแพร่กระจายปก
 คลุมหน้าผิวน้ำจนทั่วทำให้น้ำมีออกซิเจนต่ำและขัดขวางการหายใจของปลาในบ่อได้
 2. ใช้ปล่อยในบ่อบำบัดน้ำเสียสำหรับลดค่าความสกปรกของน้ำ โดยเฉพาะสารไน
 โตรเจนที่เป็น แร่ธาตุสำคัญของการเติบโต และโลหะหนักชนิดต่างๆ
 |  | การขยายพันธุ์ของไข่น้ำ การขยายพันธุ์ไข่น้ำจะแตกหน่อต้นใหม่ (budding) สืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ เกิดการแตกหน่อ ทุก ๆ 5-6 วัน โดยการแตกหน่อเริ่มจากแตกเป็นปุ่มทางด้านปลายต้นและมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนหลุด ออกจากกัน และต้นแม่มีอายุขัยโดยเฉลี่ย 15 วัน จำนวนต้นของไข่น้ำที่แตกหน่อเพิ่มจำนวนสูงสุดประมาณ วันที่ 12 ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมน้ำแห้งขอดหรือปริมาณธาตุอาหารในน้ำลดลงไข่น้ำจะเข้าสู่ระยะ พัก ไข่น้ำจะเกาะอยู่ตามรากแหนหรือพืชน้ำมีลักษณะเป็นเซลล์เดียวเม็ดสีเขียวเล็กกลมแข็ง และจมฝังใน พื้นดินก้นบ่อในสภาพฟักตัวเรียกว่า turion หรือชาวบ้านเรียกว่า หางเหิน และสามารถเจริญเติบโตขึ้นมาใหม่เมื่อสภาวะแวดล้อมเหมาะสมอีกครั้ง  เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนในปีถัดไป สำหรับบ่อเลี้ยงขนาดเล็ก บ่อซีเมนต์ กะละมัง หรือบ่อพลาสติก เมื่อขาดธาตุอาหารในบ่อเลี้ยงต้องเติมปุ๋ยลงในบ่อเลี้ยง ไข่น้ำจะเจริญเติบโตใหม่ ขึ้นมาทันทีพร้อมที่จะขยายพันธุ์ต่อไป
 |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  | 
 |  |  | 
 | 
 | 
 |  | 
 |  |
 |
 |
 | | |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  | | |  เว็บบอร์ดสนทนาเฉพาะสมาชิก | 
 | 
 |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  | | | 
 สอบถามไปรษณีย์ 1545 | 
 | 
 |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |  |
 
 | 
 |