ไม่มี ใครเก่ง เกินกรรม!!  ทำวันนี้ ให้ดีที่สุด  หยุดทำชั่ว ทั้งหลาย  ตั้งเป้าหมาย แล้วไปให้ถึง

Welcome to tsirichworld.com

ริชเวิลด์เน็ตเวิร์ค

รวยทั่วโลก

richworld

สืบค้น
 ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิค เลขที่ 1101500003040
ได้รับอนุญาตจาก สคบ.แล้ว
       สมัครสมาชิก

   Member      สมาชิก เข้าระบบ

  ว่าง

กฎหมายพืช "กระท่อม"   

รายการส่งสินค้าวันนี้

 ชื่อ/สกุล ผู้ส่ง..........................

ชื่อ/สกุล ผู้รับ.......................

ว/ด/ป/เวลา/ที่ส่ง.....................

ทางไปรษณีย์/รหัสส่ง.............

ทางรถ.........ทะเบียน.................

ปลายทางที่่........................





สอบถามไปรษณีย์ 1545
 
    
 
 
 
 
 
 
 
 
 

Side Page

 สถิติวันนี้ 44 คน
 สถิติเมื่อวาน 26 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
743 คน
6114 คน
379430 คน
เริ่มเมื่อ 2009-01-11


สมุนไพรมหัสจรรย์"กระท่อม"ไทย ดังไกลทั่วโลก รักษาโรคได้หลายชนิด เช่นติดยาเสพติด โรคซึมเศร้า เบาหวาน แก้ปวดเมื่อย พาคินสัน และอื่นๆ รับสมัครสมาชิกเข้าระบบเครือข่าย ได้รับโบนัส 4 ชั้นลึก รับตัวแทนจำหน่าย ทั่วไทย และทั่วโลก สมัครก่อน ได้เป็นแม่ทีมต้นสายก่อนใครๆ *****Miracle Herbs "Khut" Thai worldwide Cure many kinds of diseases Such as drug addiction, depression, diabetes, pain relief, Parkinson's, etc. Recruit members to join the network, receive 4 deep bonuses. Recruit dealers all over Thailand and around the world. Apply first. Be a first-class mother. anyone

หน้าแรก

เกี่ยวกับเรา

ใบอนุญาต

ผลิตภัณฑ์

สั่งซื้อ


เช็คสายงาน

โปรโมชั่น

ข่าวสาร

ติดต่อเรา

   #ด่วน!!ฟรี!   

   สมัครเป็นสมาชิก 

แล้วได้อะไร? คลิก

 รับสมัครสมาชิก ฟรี!! ปลูกต้นกระท่อมทั่วไทยและทุกประเทศทั่วโลก เข้าระบบเคลือข่าย สมาชิกจะได้รับส่วนลดจากการซื้อสินค้าของบริษัทฯ 10-40% และได้รับสิทธิ์การประกันรับซื้อ"ใบกระท่อม"คืน ในราคา กิโลกรัมละ 200 บาท ยิ่งปลูกหลายต้น ก็ยิ่งมีรายได้มาก เริ่มปลูกเดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นคนต้นๆ เพื่อมีรายได้ก่อนใครๆ เพราะกว่าต้นกระท่อมจะโตยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนหรืออาจเป็นปี

สมัคร ฟรี!! (ปิดรับสมัครแล้ว รอรอบใหม่)


.


.


ทะเบียนพาณิชย์อีเลคทรอนิค/หนังสือ
ส.ค.บ./อ.ย./ฮาลาล/อาหารปลอดภัย และรูปผลิตภัณฑ์ 
แสดงไว้ในกรอบภาพเคลื่อนไหว

 

"ต้นกระท่อม"ต้นไม้มหัสจรรย์ รักษาได้หลายโรคโดยเฉพาะ

"โรคทรัพย์จาง" เก็บใบไปเปลี่ยนเป็นเงินได้ ทันที !


#คืนเงิน #ไม่มีข้อแม้

4 เดือนถ้าผมไม่ขึ้น

ช่วยคนหัวล้านมาแล้ว
มากกว่า 100,000 คน
อายุมากเท่าไร ผมก็ขึ้น
แม้แต่โรคกรรมพันธุ์

ผมก็ขึ้นใหม่ได้เต็มหัว

รีวิวผู้ใช้

 เฮอร์

เมตโต้

O&P

     

 

.
.
 
 ดูรายละเอียดเว็บไซต์

ผลิตภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ต่างๆ






 

น้ำคลอโรฟิลล์  GREEN MAGIC (กรีนแมจิก)

 หมายเลข อย.10-3-04442-1-0001

ใต้กล่องกระดาษบรรจุคลอโร ฟิลล์ ตรากรีนแมจิกที่จัดส่งโดยตรงมาจากสหรัฐอเมริกา สามารถขอดูได้เพื่อยืนยันว่าผลิตภัณฑ์มาจากสหรัฐอเมริกาอย่างแน่นอน

ชนิด: น้ำ   ราคาปกติ: 4,800  บาท    ราคาสมาชิก: 4,320 บาท   คะแนน 4,320 PV     ค่าส่ง 150 บาท         

 

ข้อมูลผู้เคยใช้


สรรพคุณ:จากประสบการณ์ ของผู้บริโภคจากทั่วโลก ได้ข้อสรุปที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

       *ทำให้สดชื่น หายเหนื่อยจากการอ่อนเพลีย

       *ลดความดันโลหิต ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบ

       *ปรับระดับน้ำตาลสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน

       *ทำให้อาการของคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ แพ้อากาศ ผื่นลมพิษ ทุเลาลง

       *ขับกรดออกจากข้อต่อต่างๆ ช่วยลดอาการปวดข้อให้ทุเลาลง

       *ขับสารพิษออกจากร่างกาย สารตกค้างของยาปฏิชีวนะ สารเคมีตกค้างในอาหาร

       *เพิ่มประสิทธิภาพเม็ดเลือดแดงและเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำให้ระบบเลือดไหลเวียนดีขึ้น

       *แก้ปัญหาท้องผูก การขับถ่ายดีขึ้น

       *ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ใช้รักษาแผลสด แผลอักเสบ

       *บรรเทาอาการปวดศรีษะ และปวดไมเกรนได้

กำเนิดคลอโรฟิลล์

 คลอโรฟิลล์ คือ ส่วนที่เป็นสีเขียวในพืช มีหน้าที่สังเคราะห์แสง โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์มารวมกับคาร์บอนไดออกไซค์ที่พืชดูดจากอากาศผ่าน ทางใบ รวมกับน้ำที่พืชดูดมาทางราก กลายเป็นอาหารทำให้พืชเจริญเติบโตได้ และคายก๊าซออกซิเจนออกมา

จาก การสกัด และวิเคราะห์ "คลอโรฟิลล์" จากพืชกว่า 6000 ชนิด พบว่าคลอโรฟิลล์ที่ได้จากต้นอัลฟัลฟ่า จะบริสุทธิ์และดีที่สุด เพราะระบบราก สามารถชอนไชในดินได้ลึกกว่า 130 ฟุตดังนั้นจึงสามารถดูดซึมอาหารได้มากกว่า บริสุทธิ์กว่าไม่สะสมสารพิษไว้ในตัวมันเอง ในการสกัดคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์นั้น เราจะนำเอาต้นอัลฟัลฟ่าที่ไม่แก่เกินไปหรืออ่อนเกินไปมาคั้นเอาน้ำสีเขียว พร้อมทั้งเกลือแร่ต่างๆ เช่นกรดอะมิโน 8 ชนิด ได้แก่

-กรดอะมิโนไอโซลิวซีน  -กรดอะมิโนลิวซีน  -กรดอะมิโนไลซีน

-กรดอะมิโนเมไธโอนีน   -กรดอะมิโนฟินิลอะลานีน  -กรดอะมิโนเทรโอนีน

-กรดอะมิโนทริปโตฟาน  -กรดอะมิโนวานลีน

ซึ่งกรดอะมิโนเหล่านี้ ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ แต่มีความจำเป็นต่อร่างกาย พร้อมทั้งเกลือแร่อื่นๆ เช่น

-ฟอสฟอรัส  -แคลเซียม   -โปแตสเซียม  -สังกะสี  -เซเลเนียม  -แมกเนเซียม

และวิตามินต่างๆ เช่น -วิตามิน เอ  -วิตามินบี  -วิตามินดี -วิตามินอี -วิตามินเค

และเอ็นไซม์ต่างๆ ที่ช่วยต้านสารพิษได้ดีกว่าพืชชนิดอื่น

คลอ โรฟิลล์ โดยตัวของมันเองจะไม่ละลายน้ำ แต่จะละลายได้ในไขมัน หรือแอลกอฮอล์ แต่ทางเราสามารถสกัดเอาคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ที่สามารถละลายน้ำได้ออกมา ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้งานได้ทันที ผิดกับคลอโรฟิลล์ที่ละลายในไขมัน จะไม่ถูกดูดซึมในกระเพาะอาหารแต่จะถูกย่อยในลำไส้เล็ก และจะถูกเก็บไปสะสมไว้ที่ตับ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้แต่คลอโรฟิลล์ของเรา สามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย เพราะในกรณีที่คลดโรฟิลล์ของเราใช้ไม่หมดก็จะถูกขับถ่ายทิ้งไป

แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน เราสามารถสกัดเอาเฉพาะสารคลอโรฟิลล์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์และบริสุทธิ์ โดยปราศจากการสูญเสียคุณค่าทางอาหารตามธรรมชาติ ร่างกายจึงจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีอย่างเต็มที่ และเป็นคลอโรฟิลล์ชนิดละลายน้ำได้ จึงดูดซึมได้ทันทีในกระเพาะอาหาร ผิดกับคลอโรฟิลล์ชนิดที่ละลายในไขมัน จะไม่ถูกดูดซึมที่กระเพาะอาหารแต่จะย่อยและดูดซึมได้ในลำไส้เล็ก คลอโรฟิลล์ชนิดนี้เมื่อร่างกายใช้ไม่หมดจะถูกส่งไปสะสมไว้ที่ตับ (LIVER) ในระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายต่อตับได้ องค์การ อาหารและยาสหรัฐจึงให้การรับรองเฉพาะคลอโรฟิลล์ที่ละลาย น้ำได้ (WATER SOLUBLE CHOLOPHYLL) เท่านั้น ว่าปลอดภัยต่อการบริโภคของคน ถึงแม้ว่าจะบริโภคในปริมาณมากต่อวัน ก็ไม่เกิดผลเสียต่อร่างกายแต่อย่างใด ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นมีเพียงแต่อาการท้องเสียอย่างเบาบางในบางกรณีเท่า นั้น     

          คลอโร ฟิลล์ : คือ สารประกอบที่ทำให้พืชมีสีเขียวและทำหน้าที่หลัก คือ สังเคราะห์แสง โดยการเปลี่ยนพลังงานจากแสงอาทิตย์ ก็าซคาร์บอนไดออกไซด์และแร่ธาตุต่างๆ จากดินให้กลายเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช รวมทั้งให้ก๊าซออกซิเจนที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว์ คลอโรฟิลล์ธรรมชาติมีหลายชนิด บางชนิดสังเคราะห์แสงได้ในที่มีแสงแดดเท่านั้น แต่บางชนิดสังเคราะห์แสงได้แม้ในที่ไม่มีแสง เช่น ในร่างกายของคน จึงมีการค้นคว้าเกี่ยวกับการทำงานหรือปฏิกริยาของคลอโรฟิลล์ต่อคน พบว่าคลอโรฟิลล์ที่อยู่ในเซลล์ของพืชทั่วไปจะถูกปกป้องและปิดกั้นด้วยผนัง หรือเยื่อหุ้มเซลล์อีกชั้นหนึ่ง ทำให้ระบบการย่อยอาหารปกติของร่างกายเราไม่สามารถบดย่อย เพื่อให้ได้สารคลอโรฟิลล์เพียงพอกับความต้องการของร่างกายเราได้ ถึงแม้ว่าจะบริโภคผักใบเขียวเป็นจำนวนมากในแต่ละวันก็ตาม อีก ทั้งคลอโรฟิลล์โดยตัวของมันเองละลายน้ำไม่ได้ จะละลายได้ในไขมันหรือในแอลกอฮอลล์บางชนิดเท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน เราสามารถสกัดเอาเฉพาะสารคลอโรฟิลล์ออกมาได้อย่างสมบรูณ์และบริสุทธิ์ โดยปราศจากการสูญเสียคุณค่าทางอาหารตามธรรมชาติ ร่างกายจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีอย่างเต็มที่ และเป็นคลอโรฟิลล์ชนิดละลายน้ำได้ จึงดูดซึมได้ทันทีในกระเพาะอาหาร ในกรณีที่ร่างกายใช้ไม่หมด จะถูกขับทิ้งไปทางระบบขับถ่ายไม่สะสมไว้ในร่างกาย ผิดกับคลอโรฟิลล์ชนิดที่ละลายในไขมัน จะไม่ถูกดูดซึมที่กระเพาะอาหารแต่จะย่อยและดูดซึมได้ในลำไส้เล็ก คลอโรฟิลล์ชนิดนี้เมื่อร่างกายใช้ไม่หมดจะถูกส่งไปสะสมไว้ที่ตับในระยะเวลา หนึ่ง ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายต่อตับได้

องค์การอาหารและยาสหรัฐจึงให้การรับรอง เฉพราะคลอโรฟิลล์ที่ละลายน้ำได้เท่านั้น ว่าปลอดภัยต่อการบริโภคของคน

ด้วยสูตรโครงสร้างของโมเลกุลที่ใกล้เคียงกับโมเลกุลของ เม็ดเลือด แดงต่างกันเฉพาะตรงกลางที่คลอโรฟิลล์มีแมกนีเซียม (Mg) และเม็ดเลือดแดงมีเหล็ก จึงทำให้สีต่างกัน คือคลอโรฟิลล์มีสีเขียวแต่เม็ดเลือดแดงมีสีแดง

จากจุดนี้เองที่ทำให้คลอโรฟิลล์ถูกเรียกว่า เลือดของพืช

ผลการวิจัยทาง วิทยาศาสตร์การแพทย์มากมาย สรุปตรงกันออกมาว่า คลอโรฟิลล์สามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงได้จนผู้ทำวิจัยได้รับรางวัล โนเบลไปแล้วถึง 2 ท่านด้วยกันคือ

ดร.ริชาร์ด วินสเตตเตอร์(Dr.Richard Winstater) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยออสเตรีย ในปี คศ.1915 และ

ดร.ฮันส์ ฟิชเชอร์(Dr.Hans Fisher M.D.) นายแพทย์ชาวเยอรมันในปีคศ.1930

ผู้ซึ่งค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างเม็ดเลือดแดงและคลอโรฟิลล์ในบางเงื่อนไข สามารถแทนที่ศูนย์กลางของคลอโรฟิลล์ด้วยเหล็ก (Fe) จากอาหารธรรมชาติบางประเภท ทำให้อัตราการเพิ่มของเม็ดเลือดแดงดีขึ้น ทั้งนี้ แมกนีเซียม (Mg) ที่หลุดออกไปจากศูนย์กลางโมเลกุลของคลอโรฟิืลล์ ก็จะทำหน้าที่พาแคลเซียม (Ca) เข้าไปอุดรูพรุนของกระดูกต่างๆ ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ในโพรงกระดูกซึ่งมีไขกระดูกอยู่ก็จะมีการสร้างเม็ดเลือดแดงได้ในปริมาณที่ มากขึ้น

-หน้าที่ของไขกระดูก คือ สร้างเม็เลือดแดงและปรับระดับความเป็นด่างในกระแสเลือด-

การสกัดและวิเคราะห์คลอโรฟิลล์จากพืช กว่า 6000 ชนิด พบว่าพืชที่ให้คลอโรฟิลลืที่บริสุทธิ์และดีที่สุดคือ อัลฟัลฟ่า ซึ่งจัดเป็นพืชจำพวกที่มีฝักตระกูลถั่ว และมีระบบรากที่มหัศจรรย์มาก ในบางพื้นที่รากของอัลฟัลฟ่าสามารถชอนไชลงไปลึกกว่า 130 ฟุต จึงมีประสิทธิภาพในการดูดซึมอาหารได้มากกว่าและบริสุทธิ์กว่าอีกทั้งตัวของ มันเองจะไม่สะสมสารพิษ ชาวอาหรับโบราณรู้จักใช้ประโยชน์จากอัลฟัลฟ่า มากว่า 2000 ปี ก่อนคริสตกาล โดยใช้เป็นพืชเลี้ยงสัตว์และใช้ใบมาตากแห้งเป็นชาชงดื่ม จึงขนานนามให้เป็น ราชาแห่งอาหารทั้งมวล

ประโยชน์ของอัลฟัลฟ่าสามารถใช้บำบัด อาการปวดบวม และอักเสบต่างๆ เช่น ปวดข้อ จนกระทั่งถึงความผิดปรกติในระบบทางเดินอาหารและเซลล์ตับถูกทำลาย นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าอัลฟัลฟ่าสามารถช่วยมำให้เลือดสะอาดขึ้น

อัลฟัลฟ่าเป็นพืชที่ให้กรดอะมิโนที่จำเป็นครบทั้ง 8 ชนิด ซึ่งได้แก่

         *กรดอะมิโนไอโซลิวซีน    *ลิวซีน             *ไลซีน             *เมไธโอนีน   

         *พีนิลอะลานีน               *เทรโอนีน         *ทริปโตฟาน      *วาลีน

กรดอะมิโนเหล่านี้ร่างกายสร้างเองไม่ได้ แต่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการสร้างเซลล์ใหม่

ในอัลฟัลฟ่ายังมี

         *วิตามินเอ    *วิตามินบี6     *วิตามินบี12     *วิตามินดี     *วิตามินอี     และวิตามินเค

รวมทั้ง เกลือแร่ เช่นฟอสฟอรัส  โปรแตสเซียม  แคลเซียม  สังกะสี  เซเลเนียม และแมกนีเซียม เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมี เอมไซม์หลักอีก 8 ชนิด คือ ไลเปส  อาเมเลส  โคกูเลส  อีมูลซิน  อินเวอร์เดส  เปอร์อ๊อกซิเดส  เพคติเนส  โปรตีส

มนุษย์เราต้องการเอมไซม์มากกว่า 3000 ชนิด แต่ร่างกายสร้างได้เองเพียงไม่กี่ชนิด นอกนั้นต้องบริโภคจากอาหารสดประจำวันประเภทพืชผักและผลไม้ต่างๆ แต่ถ้่าหากอาหารเหล่านี้ผ่านความร้อนเกินกว่า 55 ํC ขึ้นไป เอมไซม์ต่่างๆจะเสื่อมหรือเปลี่ยนรูปไปและร่างกายจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ร่างกายต้องการเอมไซม์เพื่อช่วยปรับระดับความสมดุลย์ของระบบภูมิคุ้มกัน ต่างๆ และจากวิธีการรับประทานอาหารในปัจจุบันนี้เราได้รับเอมไซม์เข้าไปในร่างกาย น้อยมาก

ในอัลฟัลฟ่า ยังมีซาโปนิน ซึ่งเป็นสารที่มีผลในการลดการอุดตันของเส้นเลือดและช่วยยับยั้งคลอเลสเตอร อลชนิดเลว (LDL) ในเลือดลงได้ จึงช่วยลดความดันโลหิตลง

ไอโซฟลาโวน , ฟลาโวน และ สเตอโรล ในอัลฟัลฟ่ายังช่วยกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน และปรับระดับฮอร์โมนดังกล่าวในผู้หญิงทั้งก่อนมีรอบเดือน และอยู่ในวัยที่ใกล้จะหมดรอบเดือน

 สูตรโครงสร้างของคลอโรฟิลล์

ภาพแสดงความคล้ายกันของคลอโรฟิลล์ และ เม็ดเลือดแดง

                              โครงสร้าง คลอโรฟิลล์              โครงสร้าง เม็ดเลือดแดง

หลากหลายประโยชน์ของอัลฟัลฟ่า
       ด้วย สูตรโครงสร้างของโมเลกุลที่ใกล้เคียง กับโมเลกุลของเม็ดเลือดแดงต่างกันเฉพาะตรงกลางที่คลอโรฟิลล์มีแมกนีเซียม (Mg) และเม็ดเลือดแดงมีเหล็ก (Fe) จึงทำให้สีต่างกัน คือ คลอโรฟิลล์มีสีเขียวแต่เม็ดเลือดแดงมีสีแดง จากจุดนี้เองที่ทำให้คลอโรฟิลล์ถูกเรียกว่า "เลือดของพืช" (BLOOD OF PLANT) ผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์มากมาย สรุปตรงกันออกมาว่า คลอโรฟิลล์สามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงได้จนผู้ทำวิจัยได้รับรางวัล โนเบล (NOBLE PRIZE) ไปแล้วถึง 2 ท่านด้วยกัน คือ ดร.ริชาร์ด วิน สเตตเตอร์ (DR. RICHARD WINSTATER) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยออสเตรีย ในปี ค.ศ.1930 ผู้ซึ่งค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างเม็ดเลือดแดงและคลอโรฟิลล์ ในบางเงื่อนไขสามารถแทนที่ศูนย์กลางของคลอโรฟิลล์ด้วยเหล็ก (Fe) จากอาหารธรรมชาติบางประเภท ทำให้อัตราการเพิ่มของเม็ดเลือดแดงดีขึ้น ทั้งนี้แมกนีเซียม (Mg) ที่หลุดออกไปจากศูนย์กลางโมเลกุลของคลอโรฟิลล์ ก็จะทำหน้าที่พาแคลเซี่ยม (ca) เข้าไปอุดรูพรุนของกระดูกต่าง ๆ ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ในโพรงกระดูกซึ่งมีไขกระดูก (BONE MARROW) ก็จะมีการสร้างเม็ดเลือดแดงได้ในปริมาณที่มากขึ้น (หน้าที่ของไขกระดูก คือสร้างเม็ดเลือดแดงและปรับระดับความเป็นด่างในกระแส เลือด)
การสกัดและวิเคราะห์ "คลอโรฟิลล์" จากพืชกว่า 6,000 ชนิด พบว่าพืชที่ให้ "คลอโรฟิลล์" ที่บริสุทธิ์และดีที่สุดคือ "อัลฟัลฟ่า" (ALFALFA) ซึ่งจัดเป็นพืชจำนวนที่มีฝัก (LEGUMES) ตระกูลถั่ว และมีระบบรากที่มหัศจรรย์มาก ในบางพื้นที่รากของอัลฟัลฟ่าสามารถซอนไซลงไปลึกกว่า 130 ฟุต จึงมีประสิทธิภาพในการดูดซึมอาหารได้มากกว่าและบริสุทธิ์กว่าอีกทั้งตัวของ มันเองจะไม่สะสมสารพิษ ชาวอาหรับโบราณรู้จักใช้ประโยชน์จาก "อัลฟัลฟ่า"มากกว่า 2,000 ปี ก่อนคริสตกาล โดยใช้เป็นพืชเลี้ยงสัตว์ และใช้ใบมาตากแห้งชงเป็นชาดื่ม จึงขนานนามให้เป็น AL- FAS-FAH-SHA หรือ "ราชาแห่งอาหารทั้งมวล" ประโยชน์ของ "อัลฟัลฟ่า" สามารถใช้บำบัดอาการปวดบวมและอักเสบต่าง ๆ เช่น ปวดข้อ จนกระทั่งถึงความผิดปกติ ในระบบทางเดินอาหารและเซลล์ตับถูกทำลาย นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า "อัลฟาฟ่า" สามารถช่วยทำให้เลือดสะอาดขึ้น
อัลฟา ฟ่า เป็นพืชที่ให้กรดอะมีโนที่จำเป็นครบทั้ง 8 ชนิด ซึ่งได้แก่ กรดอะมิโนไอโซลิวซีน ,ลิวซีน,ไลซีน,เมไธโอนีน,ฟินิลอะลานีน,เทรโอนีน,ทริปโตฟานและวาลีน กรดอะมิโนเหล่านี้ร่างกายสร้างเองไม่ได้ แต่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการสร้างเซลล์ใหม่ในอัลฟัลฟ่า ยังมีวิตามิน เอ,บี 6,บี12,ดี,อี และ เค รวมทั้งเกลือแร่ เช่น ฟอสฟอรัส, โปรตัสเซียม, แคลเซี่ยม,สังกะสี,เซเลเนียม และ แมกนีเซียม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์หลักอีก 8 ชนิด คือ ไลเปส,อาเมเลส,โคกูเลส,อีมูลซิน,อินเวอร์เตส,อินเวอร์เตส,เปอร์อ๊อกซิเดส,เพ คติเนส,โปรตีส,มนุษย์เราต้องการเอนไซม์มากกว่า 3,000 ชนิด แต่ร่างกายสร้างได้เองเพียงไม่กี่ชนิด นอกนั้นต้องบริโภคจากอาหารสดประจำวัน ประเภทพืชผักและผลไม้ต่าง ๆ แต่ถ้าหากอาหารเหล่านี้ผ่านความร้อนเกินกว่า 55 องศาเซลเซียสขึ้นไป เอนไซม์ต่าง ๆ จะเสื่อมหรือเปลี่ยนรูปไปและร่างกายจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ร่างกายต้องการเอนไซม์เพื่อช่วยปรับระดับความสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันต่าง ๆ และจากวิธีการรับประทานอาหารในปัจจุบันนี้ เราได้รับเอนไซม์เข้าไปในร่างกายน้อยมาก
ใน อัลฟาฟ่ายังมีซาโปนิน ซึ่งเป็นสารที่มีผลในการลดในการอุดตันของเส้นเลือดและช่วยยับยั้งคลอเลสเตอร อลชนิดเลว (LDL)ในเลือดลงได้ จึงช่วยลดความดันโลหิตลง
ไอ โซฟลาโวน,ฟลาโวลและสเตอโรล ในอัลฟาฟ่ายังช่วยกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน และปรับระดับฮอร์โมนดังกล่าวในผู้หญิง ทั้งก่อนมีรอบเดือน (PMS) และอยู่ในวัยที่ใกล้จะหมดรอบเดือน (MENOPAUSE)                                                                                                กลับหน้าเดิม


    

   
 
เว็บบอร์ดสนทนาเฉพาะสมาชิก

 BTCTHB ชาร์และราคา

  
  

 

 

 

หน้าแรกขายตรงเดิม tsirichworld